ดร.เอกชัย กี่สุขพันธ์

กมว.ซัด ‘สถาบันผลิตครู’ปมแม่พิมพ์ล่วงละเมิดทางเพศ น.ร.หญิง

ดร.เอกชัย กี่สุขพันธ์ อดีตประธานคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ (กมว.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันพบกรณีที่ครูล่วงละเมิดทางเพศนักเรียนจำนวนมาก เช่น กรณีนักเรียนหญิงชั้น ม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ถูกครูชายสอนวิชาสุขศึกษาล่วงละเมิดทางเพศ หรือกรณีนักเรียนมัธยมแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ ถูกครูผู้ชายใช้มือโอบกอดจากทางด้านหลังขณะยืนอยู่ข้างๆ แล้วบีบเอวในลักษณะคุกคามทางเพศ เป็นต้น

เรื่องดังกล่าวกระทบต่อความรู้สึกของคนในสังคม และสร้างความเสื่อมเสียต่อวิชาชีพ ตนมองว่าคุรุสภาในฐานะองค์กรที่ดูแลวิชาชีพครู จะต้องรีบออกมาจัดการเรื่องดังกล่าวทันที ไม่ควรปล่อยล่าช้า เช่น ตั้งคณะกรรมการสอบสวนจรรยาบรรณได้ทันที โดยไม่ต้องตั้งคณะกรรมการเพื่อสืบข้อเท็จจริงก่อน หรือเสนอให้ที่ประชุม กมว.ที่มีอำนาจ และหน้าที่ พิจารณาการออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ และการพักใช้ หรือเพิกถอนใบอนุญาตฯ ให้ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ประชุมด่วนเพื่อพิจารณาพักใช้ใบอนุญาตฯ ก่อนได้ หากพบว่าครูถูกฝากขังแล้ว เป็นต้น

ดร.เอกชัยกล่าวต่อว่า เดิมคุรุสภาถูกตั้งคำถามมาตลอดว่าเมื่อเกิดเรื่องเกี่ยวกับครู ทำไมสถาบันวิชาชีพถึงเงียบ และไม่ดำเนินการอะไร ดังนั้น เพื่อให้สังคมเห็นว่าคุรุสภาดำเนินการเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว เช่น หากพบเรื่องร้องเรียนในสื่อ ควรตรวจสอบ และแถลงข่าวภายใน 24 ชั่วโมง ว่าคุรุสภาจะดำเนินการอะไรบ้าง เป็นต้น

“ผมมองว่าหากพบกรณีที่ครูทำผิด ถูกฟ้องร้อง และถูกฝากขัง ก็สามารถพิจารณาพักใช้ใบอนุญาตก่อนได้ หากคดีพิจารณาถึงที่สุด ค่อยพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตฯ ต่อไป ผมว่าครูที่ทำผิด ไม่ว่าจะล่วงละเมิดทางเพศ เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และทุจริต ต้องถูกเพิกถอนใบอนุญาตฯ และต้องไม่ให้มีโอกาสกลับมาเป็นครูได้อีก ทั้งนี้ ผมเสนอว่าสถาบันผลิตครู ควรนำกรณีล่วงละเมิดทางเพศของครูมาเป็นกรณีศึกษา เพื่อให้ผู้เรียนอภิปรายว่าการกระทำผิดลักษณะนี้ ผิดจรรยาบรรณครูข้อไหน และหาทางป้องกันอย่างไร เพื่อให้ผู้เรียนที่จะเป็นครูในอนาคต มีจรรยาบรรณวิชาชีพ” ดร.เอกชัย กล่าว

ศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ

ศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ นักวิชาการด้านการศึกษา กล่าวว่า หากจะแก้ไขปัญหาครูล่วงละเมิดทางเพศ ต้องกลับมาดูที่สถาบันผลิตครู และระบบที่ใช้ครู โดยเฉพาะกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และคุรุสภา ว่ามีระบบจัดการครูที่ประพฤติผิดจรรยาบรรณได้อย่างเด็ดขาด และรวดเร็วหรือไม่ ปัจจุบันสถาบันผลิตครูสอนจรรยาบรรณ และจริยธรรมครูน้อยมาก

คำถามที่ตามมาคือสถาบันผลิตครูจะปลูกฝังจรรยาบรรณอย่างไร มีวิธีปฏิบัติอย่างไร มองว่าควรจะสอนทั้งทฤษฎี โดยครูที่สอนเรื่องจรรยาบรรณต้องเป็นตัวอย่างที่ดีด้วย พร้อมให้ผู้เรียนลงพื้นที่เห็นเด็กหลากหลายกลุ่ม และนำกรณีศึกษา เช่น ข่าวสถานการณ์สมมุติมาให้ถกเถียงกัน สิ่งเหล่านี้จะค่อยๆ หล่อหลอมความเป็นครู และสร้างให้ผู้เรียนมีเจตคติที่ดีทางวิชาชีพ

“ที่ผ่านมาไม่เคยสอนครูว่าหากมีสถานการณ์ครูล่วงละเมิดทางเพศในโรงเรียน ควรจะทำอย่างไร ดังนั้น ควรสอนเรื่องนี้ด้วย เพื่อให้ครูไม่นิ่งเฉย กระตือร้อร้นช่วยเหลือ ต่อสู้เรื่องดังกล่าวอย่างถึงที่สุด และเห็นความสำคัญของนักเรียนมากกว่าชื่อเสียงของโรงเรียน ต้องไม่ปกป้องคนที่มีพฤติกรรมชั่วร้ายให้อยู่ในวิชาชีพครู นอกจากจะแก้ระบบให้ต้นทางผลิตครูที่มีจรรยาบรรณ ศธ.และคุรุสภา ต้องแก้ปัญหาด้วย โดยย้อนดูระบบ กฎหมาย และโครงสร้างด้วย ที่ไม่ดำเนินการทางจรรยาบรรณทันที เพราะอาจจะติดระบบราชการที่ต้องตั้งคณะกรรมการชุดต่างๆ ซึ่งเป็นการซื้อเวลา เพื่อให้เกิดการวิ่งเต้น หาผู้หลักผู้ใหญ่ช่วยเหลือ เจรจาไกล่เกลี่ยค่าเสียหาย ท้ายสุดครูที่ทำผิด จะถูกย้ายไปสอนที่อื่น หากกระบวนการยังเป็นแบบนี้ ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้” ศ.ดร.สมพงษ์ กล่าว

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ michiganbrittany.com

UFA Slot

Releated